เมนู

พระบรมโลกุตตมาจารย์เสวยเวลาใด เทวดาเอาโอชาทิพย์มาใส่คราวนั้น เป็นว่าคอยใส่ทีละคำ
อาหารที่เสวยทุกคำไป จะได้ละได้เว้นนั้นหามิได้ มหาราช ขอถวายพระพรบพิตรพระราช-
สมภาร เปรียบปานดุจพ่อครัวเมื่อบรมกษัตริย์จะเสวยพระสุธาหาร พ่อครัวจึงเข้าไปนั่งใกล้แล้ว
ใส่ซึ่งสูไปยรสลงทุกคำข้าวที่เสวยนั้น ยถา มีครุวนาฉันใด สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ เมื่อ
จะเสวยอาหารบิณฑบาตนั้น เทวดาเอาโอชาทิพย์มาใส่ทุกคำ ๆ เหมือนพ่อครัวอันใส่สู่ไปยรส
ทุกคำเสวยฉะนั้น ครั้งหนึ่งเล่า เมื่อสมเด็จพระสัพพัญญูเจ้าเสด็จอาศัยเวรัญชคามนั้น เสวยข้าว
รางม้า เทวดาก็เอาทิพย์โอชามาปนเข้ากับข้าวรางม้าให้ชุ่มชื่นให้พระองค์เสวย เหตุดังนั้นพระ
กายสมเด็จพระสัพพัญญูจึงเป็นปรกติอยู่ จะได้ผอมไปหามิได้ ขอถวายพระพร
สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ปิ่นประชากรใได้สวนาการฟังพระนาคเสนพยากรณ์แก้ปัญหา จึง
สรรเสริญพระบารมีของสมเด็จพระมหากรุณาว่า ภนฺเต ข้าแต่ผู้เป็นเจ้า สมเด็จพระ
ชิเนนทรบพิตรมารนี้พระบารมีมารนักหนา จนชั้นแต่เทวดาก็อุตสาหะมาปฏิบัติทุกเวลา
เสวย อันนี้ก็เป็นลาภอันเลิศของเทวดา สมฺปฏิจฺฉามิ โยมจะรับเอาถ้อยคำของพระผู้เป็นเจ้าไว้
ในกาลบัดนี้
คาถาภิวิตโภชนาทานถวาย กถนปัญหา คำรบ 7 จบเพียงนั้น

ภควโต ธัมมเทสนาย อัปโปสุกตภาวปัญหา ที่ 8


ราชา

สมเด็จพระบรมขัตติยนรินทร์ พระเจ้ามิลินท์ภูมินทราธิบดี มีพระราชโองการ
ประภาษถามอรรถปัญหาอื่นสืบไปเล่าว่า ภนฺเต นาคเสน ข้าแต่พระนาคเสนผู้เป็นเจ้าผู้
ประกอบด้วยญาณปรีชา ตุมฺเห ภณถ พระผู้เป็นเจ้ากล่าวไว้กับโยมว่า สมเด็จพระมหากรุณา
เจ้าทรงพระอุตสาหะสร้างพระบารมีมาถ้วนกำหนดสี่อสงไขยกับเศษอีกแสนกัลป์นี้ ด้วยมี
พระทัยจะรื้อขนสัตว์ออกจากห้วงมหรรณภพสงสาร ผู้เป็นเจ้าว่าไว้กระนี้นะ ปุน จ ครั้นมาอีก
เล่า พระผู้เป็นเจ้ากล่าวว่า เมื่อสมเด็จพระศาสดาจารย์เจ้าสำเร็จแก่พระศรีสรรเพชญดา-
ญาณนั้นเล่า กลับมีน้ำพระทัยน้อมไปที่จะขวนขวายน้อย ไม่ตรัสพระสัทธรรมเทศนาโปรด
สัตว์ โยมพิเคราะห์ดูอรรถทั้งสองนี้ไม่ต้องกัน ภนฺเต นาคเสน ข้าแต่พระนาคเสนผู้เป็นเจ้า
ผู้ปรีชา ยถา มีครุวนาฉันใด โยมจะเปรียบให้ฟัง เหมือนอย่างว่านายขมังธนูก็ดี และลูกศิษย์
นายขมังธนู ก็ดี เรียนไว้จะสู้รบราชศัตรู ครั้นถึงที่จะได้รบราชศัตรู แล้วก็หดห่อย่อท้ออยู่หาสู้ไม่